ชนะบนเนิน ‘พีระพล’ ซิวเหรียญเงินประวัติศาสตร์โรดเรซเอเชีย

พีระพล ชาวเชียงขวาง คว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์โรดเรซ รุ่นประชาชนชาย ในศึกสองล้อถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ด้าน “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ชื่นชมผลงานทัพนักปั่นทีมชาติไทยปิดฉากสวยงาม ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ด้วยผลงาน 13 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง  ด้าน มาจิด นาสรี ผู้ตัดสินด้านเทคนิคชาวอิหร่าน ยกย่องสนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข บึงสีไฟ จ.พิจิตร เป็นสนามที่ดีที่สุดในโลก เท่าที่เคยไปทำหน้าที่ตัดสินมา 

           การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 รุ่นประชาชน ครั้งที่ 44, รุ่นเยาวชน ครั้งที่ 31 และจักรยานคนพิการ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ 2568 ใช้เส้นทางสนามสราญจิตมงคลสุข ภายในบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และเส้นทางจังหวัดพิษณุโลก สำหรับการแข่งขันเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดการแข่งขันรายการโรดเรซ ที่บริเวณหน้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก โดยได้รับเกียรติจาก นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี โดยมี นาวาเอกฐิตพร น้อยรักษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, นาวาอากาศเอกเขมชาติ ทองมา เสนาธิการกองบิน 46  และหัวหน้าส่วนราชการร่วมในพิธี โดยมีการถ่ายทอดสดให้ชมทางเฟซบุ๊กไลฟ์และยูทูบของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

           นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ในครั้งนี้ ได้ประโยชน์หลายอย่าง นอกเหนือจากเป็นการส่งเสริมกีฬาแล้ว ยังทำให้พี่น้องชาวจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงมีความตื่นตัวหันมาเล่นกีฬามากขึ้น โดยเฉพาะกีฬาจักรยาน อีกส่วนหนึ่งการที่มีนักกีฬานานาชาติมาร่วมแข่งขันถึง 28 ประเทศทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดให้ดีขึ้น รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีความคึกคัก จังหวัดพิษณุโลกมีของดีมากมาย เรามีโบราณสถาน มีสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองอย่างพระพุทธชินราช ในส่วนของเส้นทางการแข่งขันก็มีความสวยงาม และมีมวลชนมาให้กำลังใจนักกีฬาตลอดสองข้างทาง สร้างความประทับใจให้กับนักกีฬาที่มาร่วมการแข่งขันอย่างมาก

           “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากผลการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ทัพนักปั่นปิดฉากอย่างสวยงาม ครองเจ้าเหรียญทองด้วยผลงาน 13 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง นับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะเหรียญทองจาก “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ รายการโรดเรซ รุ่นประชาชนหญิง และเหรียญเงินจาก “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง รายการโรดเรซ รุ่นประชาชนชาย ซึ่งถือเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ที่เรายังไม่เคยได้ โดยการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดระยอง นักปั่นไทยรั้งอันดับ 2 ได้ 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง แต่ครั้งนี้สามารถทำผลงานได้ดีกว่ามาก จะเห็นได้ชัดว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดด

           ด้าน นายมาจิด นาสรี ผู้ตัดสินด้านเทคนิค หรือ Technical Delegate ชาวอิหร่าน เปิดเผยว่า สนามจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ที่บึงสีไฟ นับว่าเป็นสนามที่ดีที่สุดเท่าที่ตนเองเคยเห็นมาในการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย รวมถึงการแข่งขันรายการนานาชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ทั้งสภาพพื้นผิวที่ดีเยี่ยม ตลอดจนเป็นสนามที่สามารถปิดการจราจรได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม ความปลอดภัยทั้งนักกีฬาและผู้ชมสูงสุด ในขณะเดียวกันนักกีฬาจักรยานจากหลาย ๆ ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันก็สามารถยกระดับพัฒนาความสามารถขึ้นมาใกล้เคียงกับบรรดามหาอำนาจกีฬาสองล้อของภูมิภาคเอเชีย เชื่อมั่นว่าในอนาคตนักปั่นเอเชียจะสามารถพัฒนาขึ้นไปใกล้เคียงกับชาติในภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะยุโรปที่เป็นเจ้ากีฬาสองล้อ

           ส่วนผลการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา มีชิง 1 เหรียญทอง จากรุ่นประชาชนชาย เส้นทางจากบริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก มาปั่นในสนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร 5 รอบ แล้วไปเข้าเส้นชัยที่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ระยะทางรวม 171.90 กม. สำหรับทีมนักปั่นไทยประกอบด้วย “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, “เฟรม” ส.อ.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, “ดอย” ร.ต.ท.นวุติ ลี้พงษ์อยู่, “เกมส์” จ.ต.นพชัย กล้าหาญ, “วุฒิ” ส.ท.สราวุฒิ ศิริรณชัย ขณะที่พิธีมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และ นายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ร่วมกันมอบรางวัลให้แก่นักกีฬา

           ไฮไลต์ของการแข่งขันอยู่ที่ช่วง 5 กม. สุดท้ายที่ต้องปั่นขึ้นบ้านรักไทย ซึ่งเป็นการปั่นขึ้นเนินสูงชันมาก นักปั่นต้องใช้กำลังมาก ช่วงแรกของการขึ้นเขา “มะตูม” พีระพลเร่งเครื่องขึ้นมานำ แต่ช่วงกลางทางถูก เซียน จิง หลิว นักปั่นชาวจีนแซงและทิ้งห่างออกไปก่อนจะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ส่งผลให้นักปั่นจีนคว้าเหรียญทองไปครองด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 46 นาที 35 วินาที ส่วนมะตูมได้เหรียญเงิน เวลา 3 ชั่วโมง 47 นาที 9 วินาที ถือเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ของทัพนักปั่นไทย ซึ่งยังไม่มีนักปั่นคนใดได้มาก่อน ขณะที่เหรียญทองแดงเป็นของ จัมบัลจัมต์ ไซน์บายาร์ จากมองโกเลีย เวลา 3 ชั่วโมง 47 นาที 11 วินาที 

          มะตูม พีระพล กล่าวว่า วันนี้ภูมิใจมากถือว่าทำสำเร็จตามเป้าหมาย หลังจากที่ตั้งใจฝึกซ้อมและรอคอยมาเป็นเวลานานหลายปี ขอบคุณท่านนายกสมาคมฯ พลเอกเดชา เหมกระศรี ขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคน ขอบคุณทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่เป็นกำลังใจและช่วยกันฝึกซ้อม วันนี้ก็ถือว่าทำได้ตามแผนคือการเอาชนะคู่ต่อสู้บนเนินเขา ส่วนนักปั่นจีนที่ได้เหรียญทองตนก็คาดเอาไว้แล้วว่าเขาเป็นนักกีฬาที่แข็งแกร่งมากและน่าจะชนะในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว รู้สึกเสียดายนิดหน่อย ที่ไม่สามารถทำได้ถึงเหรียญทอง ส่วนการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ ตนเชื่อว่านักปั่นไทยสู้ได้ทุกทีม แต่พวกเราก็จะตั้งใจฝึกซ้อมและแก้ไขจุดบกพร่องและพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้น

           สรุปผลรวมเหรียญรางวัล ตั้งแต่วันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ ดังนี้ อันดับ 1 ทีมชาติไทย 13 ทอง 5 เงิน 7 ทองแดง, อันดับ 2 คาซัคสถาน 7-7-0, อันดับ 3 อุซเบกิสถาน 3-0-1, อันดับ 4 อิหร่าน 3-0-0, อันดับ 5 ฮ่องกง 2-5-7, อันดับ 6 เวียดนาม 2-2-3, อันดับ 7 มาเลเซีย 2-1-0, อันดับ 8 จีน 2-0-0, อันดับ 9 มองโกเลีย 1-7-2, อันดับ 10 ฟิลิปปินส์ 1-2-1