26 Jun 2025

มือท็อปจีที3พร้อมสู้ศึก ‘จีทีเวิลด์ชาลเลนจ์เอเชีย’ ที่บุรีรัมย์

racing20052501

ศึกซูเปอร์คาร์ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 เตรียมประลองความเร็วสนาม 3 วันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ภายใต้การลุ้นแชมป์สุดเข้มข้น นำโดยนักแข่งระดับพระกาฬจากทั่วโลกลงแข่งอย่างคับคั่ง รถจีที3 มากถึง 33 คัน สะกดทุกสายตาด้วยสุดยอดเทคโนโลยีรถหรูที่ล้ำสมัย 

          การแข่งขันซูเปอร์คาร์ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 เดินทางมาถึงสนามที่ 3 ของฤดูกาล ภายใต้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ที่เข้มข้นหลังผ่านไปทั้งสิ้น 4 เรซ จาก 2 สนามแรกที่ เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย และ เปอร์ตามินา มันดาลิกา อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย

          สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ยังคงถูกวางเป็นหนึ่งในสังเวียนสำคัญในช่วงแห่งการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ประจำปี โดยถูกบรรจุเป็นสนามที่ 3 ของฤดูกาล ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. จากนั้นอีก 2 สนามดวลกันในประเทศญี่ปุ่น โดยสนาม 4 วันที่ 11-13 ก.ค. ที่ฟูจิ อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์, สนาม 5 วันที่ 29-31 ส.ค. ที่โอคายามา และปิดฉากสนาม 6 วันที่ 17-19 ต.ค.ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน

           นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า ” จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ถือเป็นหนึ่งในเรซระดับนานาชาติที่มีผู้ติดตามชมมากที่สุดรายการหนึ่ง ด้วยพลังของที่สุดแห่งยนตรกรรมระดับโลก ความสวยงามหรูหรา เร็วและแรง ดวลความเร็วโดยทีมระดับพระกาฬของโลก สามารถสะกดทุกสายตาและเป็นหนึ่งในรถในฝันของผู้คน ทำให้เกิดการติดตามชมจากทั่วโลกทั้งการเข้าชมในสนาม ผ่านการถ่ายทอดสดและช่องทางออนไลน์”

           “การที่ประเทศไทยเราได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน 1 ในสนามสำคัญของโลก และได้แบ่งบันประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตแบบสุดพิเศษให้คนไทยได้ดูในสนามประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับกีฬาความเร็วของไทยให้ครบทุกมิติ ทั้งยังแสดงศักยภาพของประเทศ สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม สนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรม มอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันรายการ ฮอนด้า วันเมคเรซ 2025 สนามแรกของฤดูกาลมาร่วมเสริมทัพความมันส์เป็นซัพพอร์ตเรซด้วย ขอเชิญชวนแฟนความเร็วมาชม-เชียร์กันที่สนามเยอะๆ ครับ”

           ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า จะมีรถแข่งจีที3 เดินทางมาแข่งขันในเมืองไทยมากถึง 33 คัน จาก 8 ผู้ผลิตชั้นนำ แฟนความเร็วจะได้พบกับรถซูเปอร์คาร์สุดล้ำ อาทิ Mercedes-AMG, Ferrari 296, Porsche 911, Porsche 992, Lamborghini Huracan, Audi R8 LMS, BMW M4, Chevrolet Corvette Z06, Nissan GT-R NISMO ฯลฯ และยังเป็นการรวมตัวของ ทีมแข่งชั้นนำ นักแข่งฝีมือดีจากทั่วโลกหลากหลายทวีปมากกว่า 60 คน

           ในฤดูกาลนี้บรรดานักแข่งแถวหน้าของโลกยังคงลงแข่งขันอย่างคับคั่ง นำโดยอดีตนักแข่งฟอร์มูล่าวันชาวเยอรมันอย่าง มาร์คุส วิลเคนฮอล์ค, อเลสซิโอ ปิคาริเอลโล ยอดนักแข่งเบลเยียม, เอดูอาร์โด มอร์ทารา นักแข่งสวิส, เจย์เดน โอเจดา นักแข่งออสเตรเลียน,  แฮร์รี คิง และ อเล็กซานเดอร์ ซิมส์ สองนักแข่งจากสหราชอาณาจักร, ลอเรนโซ ปาเตรเซ นักแข่งอิตาเลียน และ นิโก เมนเซล จากเยอรมัน เป็นต้น

           โดยหลังผ่าน 2 สนามแรก คู่หูนักแข่งจีนอย่าง หยวน ปอ และ ลีโอ เย ฮงลี จาก ออริจิน มอเตอร์สปอร์ต สร้างผลงานร้อนแรงพาทีมนำเป็นจ่าฝูง โดยมีทั้งสิ้น 68 คะแนน ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ แอนโทนี หลิว ซู นักแข่งจีนและทีมเมทชาวเฟรนช์อย่าง โดเรียน บอคโคลาชชี จาก แฟนธอม โกลบอล เรซซิ่ง ตามหลังเพียง 9 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ หรวน ชุน ฟัน นักแข่งจีนและทีมเมทชาวดัตช์อย่าง มักซีม ออสเตน จากทีม เคอาร์ซี ตามหลัง 19 คะแนน

           ด้าน อเลสซิโอ ปิคาริเอลโล นักแข่งมือโปรชาวเบลเยี่ยมและทีมเมทชาวจีนอย่าง หลู เหว่ย จาก ออริจิน มอเตอร์สปอร์ต เพิ่งเค้นฟอร์มเก่งชนะในเรซที่ผ่านมา ได้อันดับ 1 เก็บคะแนนรวมไปได้ 25 และ 26 คะแนน