‘อาฒยา’ตอบรับร่วมศึกเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ

อาฒยา ฐิติกุล (ภาพ: Getty Images/HSBC)
“จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล พร้อม 4 โปรสาวมือท็อปเท็นของโลกตอบรับร่วมแข่งขัน เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ สโตรกเพลย์ 72 หลุมแบบไม่มีการตัดตัว ที่สนามเซนโตซา กอล์ฟ คลับ ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคมที่จะถึงนี้
เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ ในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 17 ได้รับการตอบรับจากเหล่ายอดฝีมือแถวหน้าของโลกตบเท้าเข้าชิงชัยนำโดยโปรสาวมืออันดับท็อปเท็นของโลกถึง 9 คน ได้แก่ หยิน รัวหนิง มือสองของโลกจากจีน, ลิเดีย โค มือสามของโลก และเจ้าของ 3 แชมป์เมเจอร์จากนิวซีแลนด์, ลิเลีย วู มือห้าของโลกจากสหรัฐฯ, ฮันนาห์ กรีน มือหกของโลกจากออสเตรเลีย ในฐานะแชมป์เก่า
ล่าสุดผู้เล่นสาวแถวหน้าอีก 5 คน ยืนยันร่วมประชันฝีมือได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล สาวไทยมือสี่ของโลก , แฮรัน ยู มือเจ็ดโลกจากเกาหลีใต้, อายากะ ฟุรุเอะ มือแปดโลกจากญี่ปุ่น, เซลีน บูติเยร์ มือเก้าโลกจากฝรั่งเศส และ ชาร์ลีย์ ฮัลล์ มือสิบโลกจากอังกฤษ ซึ่งผู้เล่นทั้งหมดครองชัยชนะในแอลพีจีเอรวมกันได้ถึง 54 ครั้ง และเป็นแชมป์เมเจอร์ 9 รายการ
อาฒยา ฐิติกุล ซึ่งปีที่แล้วโชว์ผลงานได้น่าประทับใจเมื่อจับคู่กับ หยิน รัวหนิง คว้าแชมป์กอล์ฟทีมดาว แชมเปียนชิพ ในเดือนมิถุนายน และปิดฤดูกาลด้วยแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนพฤศจิกายน จะลงสู้ศึก เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ เป็นครั้งที่ 4 โดยเป็นการกลับมาแข่งขันรายการนี้อีกครั้งหลังจากพลาดลงเล่นในครั้งที่แล้วเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
จีโน่ อาฒยา เผยว่า “รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับไปแข่งขันเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ อีกครั้ง ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นหนึ่งในรายการโปรดมาโดยตลอด และการได้เล่นที่สนามเซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งมาก การพลาดโอกาสลงเล่นเมื่อปีที่แล้วทำให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้นที่จะกลับไปที่นั่นในปีนี้ และรอคอยที่จะได้ไปเยือนประเทศที่ชื่นชอบอีกครั้ง”
ทางด้าน คี จู หว่อง ซีอีโอของเอชเอสบีซี สิงคโปร์ กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นนักกอล์ฟหญิง 10 อันดับแรกของโลกถึง 9 คนเข้าร่วมการแข่งขันเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2025 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและคุณภาพของทัวร์นาเมนต์นี้ อีกทั้งยังเป็นรายการที่ดึงดูดความสนใจ เราแทบรอไม่ไหวที่จะได้ต้อนรับเหล่านักกีฬาระดับโลกสู่ศูนย์กลางระดับโลกที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อตอกย้ำการเป็นรายการเมเจอร์แห่งเอเชียที่ยิ่งใหญ่อีกรายการหนึ่ง”